โรงงานผลิตโทนเนอร์
รับผลิตโทนเนอร์ สร้างแบรนด์โทนเนอร์

บริษัทผู้รับจ้างผลิตจะร่างสัญญาพร้อมแนบรายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สินค้าของลูกค้า(ผู้ว่าจ้างผลิต) ส่งให้ลูกค้าลงนาม โดยมีเนื้อหาครอบคลุมหัวข้อดังต่อไปนี้

1. วัตถุประสงค์ของสัญญา

2. รายละเอียดสินค้าและข้อกำหนด

3. การยืนยันคำสั่งซื้อ

4. เงื่อนไขการชำระเงินค่าสินค้าและบริการ

5. การยืนยันกระบวนการผลิต

6. การรับประกันคุณภาพสินค้า

7. ความเป็นเจ้าของวัสดุและทรัพย์สินทางปัญญา

8. การชดใช้ค่าเสียหายสำหรับการละเมิดลิขสิทธิ์

9. ความรับผิดชอบในการปฏิบัติตามกฎระเบียบและข้อบังคับ

10. สิทธิ์และการใช้เครื่องหมายการค้าของผู้รับจ้าง

11. การรักษาข้อมูลด้านการค้า

‍

สอบถามข้อมูลการสั่งผลิตเพิ่มเติม ตามช่องทางต่อไปนี้

1. line OA @535bynqh

2. email: info@carebeau-enjoy.com

3. www.carebeau-enjoy.com

4. Tel. 092 734 6748

‍

ขั้นตอนที่ 1

สอบถามความต้องการ เบื้องต้น เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ต้องการผลิต, สูตรที่ต้องการ, คุณสมบัติสินค้าหรือกลุ่มเป้าหมาย, เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องต่อความต้องการของลูกค้ามากที่สุด

ขั้นตอนที่ 2

จัดส่งใบเสนอราคา,ตัวอย่าง,ข้อมูลผลิตภัณฑ์ เงื่อนไขในการดำเนินงาน และค่าใช้จ่ายต่างๆ แก่ลูกค้า

ขั้นตอนที่ 3

เมื่อลูกค้าทดสอบสินค้าจนเป็นที่พอใจและยืนยันสูตรสินค้าแล้ว ทางบริษัทจะดำเนินการขอเลขที่จดแจ้งอย.ไทย หลังจากนั้นชำระค่า มัดจำ 50% ก่อนดำเนินการสั่งผลิต

ขั้นตอนที่ 4

ดำเนินการออกแบบผลิตภัณฑ์

ขั้นตอนที่ 5

จัดทำไทม์ไลน์การผลิตสินค้า ในกรณีที่สั่งผลิตสินค้าครั้งแรก กับทางบริษัท จะมีระยะเวลาอยู่ที่ 60 วัน นับตั้งแต่วันที่ยืนยันแบบ และในกรณีที่ลูกค้าต้องการสั่งรอบต่อไป จะมีระยะเวลาอยู่ที่ 30 วัน

ขั้นตอนที่ 6

ดำเนินการผลิตสินค้าและตรวจสอบคุณภาพ ก่อนการส่งมอบให้ทางลูกค้า

ขั้นตอนที่ 7

ลูกค้าทำการชำระเงินส่วนที่เหลือของจำนวนเงินที่ต้องชำระทั้งหมด ทางบริษัทจะทำการจัดส่งสินค้า ตามที่ได้นัดหมายไว้

‍

ทางบริษัทสามารถจัดเตรียมเอกสารรองรับสินค้าส่งออก รายการดังนี้

Quality Certifications: เอกสารรับรองด้านคุณภาพ

1. Certificate of GMP (Good Manufacturing Practice)

2. ISO 9001:2015 (Quality Management System)

3. ISO 22716:2007 (Cosmetics Good Manufacturing Practice)

‍

Product Information: เอกสารรับรองผลิตภัณฑ์

4. Certificate of Free Sale or Certificate of Origin

5. Formulation (ingredients list)

6. Safety Data Sheet (SDS)

7. Certificate of Analysis (COA)

‍

Authorization: หนังสือมอบอำนาจ

8. Letter of Authorization (LOA)

เอกสารที่ใช้สำหรับส่งออกมีค่าใช้จ่ายหรือไม่

‍

ค่าใช้จ่ายของเอกสารส่งออก

1. Certificate of Free Sales(CFS): 1000บาท/ชุด

มีอายุ 2 ปี นับจากวันที่อนุมัติเอกสาร

2. Certificate of Origin(COO): 1000บาท/ชุด

มีอายุ 2 ปี นับจากวันที่อนุมัติเอกสาร

‍

ค่าบริการออกแบบผลิตภัณฑ์

1. ค่าบริการออกแบบ

1.1 ออกแบบโลโก้ 2000 บาท (แก้แบบได้ 2 ครั้ง)

1.2 ออกแบบฉลาก 3000 บาท (แก้แบบได้ 2ครั้ง)

‍

2. สิ่งที่ลูกค้าต้องเตรียม

2.1 รายละเอียดสินค้าที่ต้องการระบุในฉลาก

2.2 Mood&tone ของแบรนด์/โทนสีที่ต้องการ/ แบบอักษรที่ต้องการ

‍

3.กรณีลูกค้าต้องการออกแบบโลโก้และฉลากด้วยตัวเองสามารถจัดทำได้

ทางบริษัทจะส่งข้อมูล Area Prining

และข้อกำหนดในการออกแบบให้ลูกค้า

‍

ระยะเวลาในการออกแบบ ใช้เวลานานเท่าใด

ประมาณ 5-7 วันทำการ

‍

มีบริการยื่นขอเลขจดแจ้งอย.

ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการยื่นขอจดแจ้ง รายละเอียดอย่างไรบ้าง

ค่าใช้จ่ายในการยื่นจดแจ้ง อย. มีดังนี้

1. ค่าขอรหัสผู้ประกอบการ = 1,000 บาท (จ่ายครั้งแรกครั้งเดียว ถ้ามีรหัสผู้ประกอบการแล้ว ไม่มีค่าใช้จ่าย)

2.ค่าจดแจ้งอย.ผลิตภัณฑ์ละ = 1,500 บาท/ผลิตภัณฑ์

3. ค่าพัฒนาสูตร = 4,000 บาท/สูตร (จ่ายเฉพาะสูตรใหม่ ถ้าสั่งผลิตตามสูตรเดิมที่เคยผลิตแล้ว ไม่มีค่าใช้จ่าย)

4. ค่าธรรมเนียมการต่ออายุเลขจดแจ้ง อย. ผลิตภัณฑ์ละ = 1,500 บาท/ผลิตภัณฑ์/3ปี

5. ค่าบาร์โค้ดสินค้า 3,000 บาท/ ผลิตภัณฑ์/ 3ปี

‍

ระยะเวลาในการขึ้นทะเบียน อย ใช้เวลาเท่าไร

ประมาณ 7-10 วันทำการ

‍

สินค้าที่ผลิตมี กลุ่มผม ได้แก่ แชมพู,ทรีทเมนท์,เซรั่ม,ลีฟออน,แฮร์โทนิค, แชมพูปิดผมขาว, ฟอกสีผม, ครีมย้อมผม, แว๊กซ์สีผม กลุ่มผิว ได้แก่ ครีมอาบน้ำ, โลชั่น, Skin Hair Bleaching cream, สครับเกลือ, น้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม

‍

เรทในการผลิตสินค้ามีเท่าไรบ้าง

เริ่มต้นที่ 5000 ชิ้น/ 10,000 ชิ้น/ 20,000 ชิ้น

‍

ระยะเวลาการผลิต

ลีดไทม์การผลิต 60 วัน สำหรับสินใหม่

ลีดไทม์การผลิต 30 วัน สำหรับ repeat order

‍

มาตรฐานการรับรองการผลิต:

1. ISO 9001:2015: มาตรฐานสากลนี้บ่งบอกถึงระบบการจัดการคุณภาพที่แข็งแกร่ง ซึ่งรับประกันคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกันและความพึงพอใจของลูกค้า

2. ISO 22716: มาตรฐานนี้เน้น Good Manufacturing Practices (GMP) สำหรับอุตสาหกรรมเครื่องสำอางโดยเฉพาะ ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการปฏิบัติตามมาตรฐานด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยระดับสูงในระหว่างการผลิต

3. Thai FDA GMP: การรับรองนี้แสดงถึงการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ Good Manufacturing Practices ที่กำหนดโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา

4. การรับรองฮาลาล (ไม่บังคับ): การรับรองนี้ระบุว่าผลิตภัณฑ์เป็นไปตามมาตรฐานอาหารและการผลิตของศาสนาอิสลาม (ลองเพิ่ม "ทางเลือก" หากผลิตภัณฑ์ของคุณไม่บังคับให้ต้องมีการรับรองฮาลาล)

‍